ศิลปะเซรามิก ศิลปะจากการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ

ศิลปะเซรามิก

เรื่องราวเซรามิก ศิลปะเซรามิก ที่เล่าเรื่องราวผ่านมือและธรรมชาติ ความเป็นมา และขั้้นตอนกว่าจะมาเป็นเซรามิก เซรามิก (อังกฤษ: ceramic) เซรามิกมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก keramos มีความหมายว่า สิ่งที่ถูกเผา

ในอดีตวัสดุเซรามิกที่มีการใช้งานมากที่สุดคือ เซรามิกดั้งเดิม ทำมาจากวัสดุหลักคือดินเหนียว โดยในช่วงแรกเรียกผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ว่า ไชนาแวร์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับคนจีนซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการผลิตเครื่องปั้นดินเผารุ่นแรก ๆ

ปัจจุบันนี้ เซรามิก หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัตถุดิบในธรรมชาติ วัสดุหลักคือ ดินเหนียว หิน ทราย และแร่ธาตุต่าง ๆ นำมาผสมกัน แล้วทำเป็นสิ่งประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา แบ่งตามลักษณะเนื้อของดิน คือ ชนิดที่ดูดซึมน้ำได้ มีทั้งชนิดที่เคลือบ และไม่เคลือบ หลังจากนั้นจึงนำไปเผาเพื่อเปลี่ยนเนื้อวัตถุให้แข็งแรง สามารถคงรูปอยู่ได้

การใช้เซรามิก

เซรามิกสามารถนำมาประยุกต์ เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ได้มากมาย อาทิ หม้อไหถ้วยชาม เครื่องเคลือบดินเผา อิฐ กระเบื้องเคลือบ วัสดุประเภทซีเมนต์ แก้ว และวัสดุทนไฟ เป็นต้น ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมาได้มีความเจริญก้าวหน้าในกระบวนการผลิต ตลอดจนมีความเข้าใจในลักษณะพื้นฐาน และกลไกที่ควบคุมคุณสมบัติของเซรามิก ทำให้มีการพัฒนาเซรามิกประเภทใหม่ ๆ มากมาย คำว่าเซรามิกจึงมีความหมายที่กว้างขึ้นรวมถึงเซรามิกที่มีคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ด้วย โดยวัสดุเหล่านี้ได้ถูกนำไปใช้ในงานต่าง ๆ เช่น

  • ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
  • ฉนวนไฟฟ้า
  • วัสดุขัดเจียร
  • ชิ้นส่วนยานอวกาศ
  • ภาชนะ และเครื่องครัว (Table ware)
  • เครื่องประดับตกแต่ง (Decoration & Garden ware)
  • เครื่องสุขภัณฑ์
  • ชิ้นส่วนในร่างกายมนุษย์

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่างานเซรามิกเป็นงานศิลปะที่มีมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่อยู่คู่กันมาในหลายต่อหลายพื้นที่ ในปัจจุบันนี้เราก็ยังสามารถพบเห็นเครื่องเซรามิกอยู่ในชีวิตประจำวันของเราหลายต่อหลายอย่าง เดิมทีเครื่องเซรามิกก็เป็นเพียงเครื่องปั้นดินเผาธรรมดา ที่ใช้เพื่อบรรจุสิ่งของหรืออาหารเท่านั้น แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปเครื่องปั้นดินเผาก็ได้มีการหยิบยกลวดลายออกมา จนกลายมาเป็นลวดลายบนเซรามิกที่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งงานที่เป็นผลงานชิ้นเอกที่เรายังสามารถพบเห็นได้ทุกวันนี้ก็ได้แก่

  • Astier de Villatte ของ ปง โอ ชู ที่เป็นผลงานสุดโด่งดังจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันผลงานชนิดนี้ก็ยังมีให้เห็นได้จัดแสดงอยู่ในปารีสนั่นเอง ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นเครื่องเซรามิกที่นำเอาศิลปะของสมัยบาโรก มาผสมผสานกันให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
  • Dhanabadee Outlet แบรนด์ส่งออกเครื่องเซรามิกที่มีชื่อเสียง และส่งออกไปยังต่างประเทศทั่วโลก ด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่รู้จักของทุกคนอย่างที่เรามักจะคุ้นเคยกันในชื่อของถ้วยตราไก่นั่นเอง นอกจากจะเป็นตำนานที่มีมาอย่างยาวนานในเอเชียแล้ว แบรนด์นี้ก็ยังสามารถสร้างตลาดได้ในระดับโลกได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการปลุกจิตวิญญาณให้กับวงการเซรามิกโดยแท้

รายชื่อนักปั้นเซรามิกระดับโลก

  • Bruce M. Sherman (New York )
  • Yul Hee Lee (Seoul)
  • Roberto Lugo (Marlboro, Vermont)
  • Aneta Regel (London)
  • Coile Hooven ( Berkeley, California)
  • Jami Porter Lara (Albuquerque, New Mexico)
  • Brian Rochefort ( Los Angeles)
  • Ramesh Mario Nithiyendran (Sydney)
  • Katie Spragg (London)
  • Cristina Tufino (Philadelphia)
  • Andile Dyalvane (Cape Town)
  • Elisabeth Kley (New York)
  • Matt Wedel (Athens, Ohio)
  • Julia Haft-Candell (Los Angeles)
  • Jessica Stoller (Brooklyn)
  • Aaron Angell (London)
  • Geng Xue (Beijing,China)
  • Gareth Mason (London)
  • Bari Ziperstein (Los Angeles)
  • Rochelle Goldberg (New York)

รู้เรื่อง ศิลปะเซรามิก กันไปแล้วเราขอแนะนำ 4 เมนูกะทิหอมกรุ่น รสละมุน กะทิ ถือเป็นเครื่องเคียงฉบับไทยแท้  ที่สามารถนำมาประกอบอาหารทั้งคาวหวานได้อย่างลงตัว กะทิไม่ว่าจะไปอยู่ในเมนูต้ม ผัด หรือแกง ก็อร่อยละมุนลิ้นเสมอ ยิ่งเป็นเมนูที่ใส่เครื่องเคียง และเครื่องแกงแบบครบสูตร เมนูเกี่ยวกับกะทิ ยิ่งจะทรงคุณค่าทางรสชาติอาหารมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติม รู้จัก 8 สไตล์รอยสักของผู้ชาย ศิลปะบนเรือนร่าง