เป็นหนองใน ต้องรีบรักษา – เมื่อร่างกายของเราเจ็บป่วย หรือเป็นโรคอะไรบางอย่าง หรือเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ภายในร่างกายของเรา เมื่อเวลาผ่านไปไม่ได้ไปพบแพทย์ หรือรักษา บางโรคอาจจะหายเอง หรือแทบจะไม่มีทางเลยที่บางโรคนั้นจะหายไปเอง
อย่างโรคที่เราจะนำมาในวันนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เรียกว่า โรคหนองใน ซึ่งมีสาเหตุเกิดมาจากเชื้อแบคทีเรีย หากไม่ได้ไปพบแพทย์ในขณะที่อาการต่างๆ ก็จะดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ย้ำว่าเล็กน้อย แต่โรคนั้นก็ยังมีอยู่ เราจึงไม่สามารถละเลยเรื่องเหล่านี้ได้
โรคหนองในแท้ หรือ โรคโกโนเรีย (Gonorrhea) นับว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบกันได้มากเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด อาการที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ป่วยนั้นมักจะไม่ได้มาเล่นๆ
เพราะทั้งรุนแรงและชัดเจน หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา อาการที่เป็นอยู่ก็จะดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ไม่หายขาด ถ้ายังไม่รีบไปรักษาก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้อีกนับไม่ถ้วน จากรายงานของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ที่รวบรวมข้อมูลผู้ป่วยจากโรคทางเพศสัมพันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2551
พบว่ามีผู้ป่วยที่เป็นโรคหนองในกว่า 6,168 ราย หรือคิดเป็น 15.43% ของผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด หรือคิดได้เป็น 9.76 ต่อประชากร 100,00 คน

เป็นหนองใน ต้องรีบรักษา
หนองใน เกิดจากการติดเชื้อของแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ไนซีเรีย โกโนเรียอี (Neisseria gonorrhoeae) หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘โกโนค็อกคัส’ (Gonococcus) ที่สามารถตรวจพบได้ในน้ำอสุจิและสารน้ำในช่องคลอด และถ่ายทอดกันผ่านการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก ซึ่งแบคทีเรียชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในที่ชื้นและที่อบอุ่นของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ เริ่มตั้งแต่ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก ท่อปัสสาวะในฝ่ายหญิง และระบบสืบพันธุ์ของฝ่ายชาย อีกทั้งเชื้อชนิดนี้ยังสามารถเจริญเติบโตในบริเวณอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น ทวารหนัก เยื่อบุตา ช่องปากคอ เป็นต้น
กิจกรรมที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อหนองใน
มักจะติดโรคมาจากการมีเพศสัมพันธุ์กับผู้ติดเชื้อโดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ผ่านการสัมผัสเยื่อบุช่องคลอด ช่องปาก ทวารหนัก องคชาติ ซึ่งอาจจะไม่ต้องมีการหลั่งน้ำอสุจิก็ได้ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดติดเชื้อจากมารดาไปสู่ทารกในระหว่างคลอดผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรง โดยในสตรี เชื้อจะสามารถแพร่จากช่องคลอดไปสู่ทวารหนักได้เองโดยไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
กิจกรรมที่ไม่ทำเกิดการติดเชื้อหนองใน
การจับมือ , การกอด , การจูบ , การใช้แก้วน้ำ จาน ชามร่วมกัน , การใช้ห้องน้ำ หรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน , การนั่งฝาโถส้วม , การใช้สระว่ายน้ำร่วมกัน ทั้งนี้ หนองในจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสระว่ายน้ำ หรือในโถส้วม จึงไม่มีโอกาสที่คนปกติทั่วไปจะติดเชื้อได้ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้มือ หรือนิ้วช่วย ก็ยังไม่พบข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าสามารถทำให้เกิดการถ่ายทอดของเชื้อได้

กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อหนองใน
ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น , ผู้ติดยาเสพติด , ผู้ที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน , ผู้ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยในขณะมีเพศสัมพันธ์ , ผู้ที่เคยเป็นโรคนี้มาแล้ว หรือเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ อาทิ โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นต้น
ระยะฟักตัวของโรค
หลังจากที่ได้รับเชื้อ ก็มักจะแสดงอาการภายใน 2 – 10 วัน แต่โดยทั่วไปแล้วจะแสดงอาการภายใน 5 วัน

อาการของหนองในที่สังเกตเห็นได้
ผู้ชาย : ภายหลังจากที่ได้รับเชื้อประมาณ 2 – 10 วัน จะมีอาการแสบในลำกล้องเวลาที่ปัสสาวะ หรือมีอาการปัสสาวะขัด มีหนองไหลออกมาจากท่องปัสสาวะ ในระยะแรก หนองอาจจะแค่ไหลซึมเป็นมูกใสๆ เล็กน้อย
โดยที่ไม่ใช่น้ำปัสสาวะ หรืออสุจิ ถัดมาอีก 12 ชั่วโมงให้หลังก็จะกลายเป็นหนองสีเหลืองข้น และจะออกมาคล้ายกับเส้นก๋วยเตี๋ยว ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดและถุงอัณฑะบวม หรืออาจมีการอักเสบที่บริเวณหนังหุ้มปลายองคชาตร่วมด้วย แต่จะพบได้น้อย ในทางตรงกันข้าม เพศชายประมาณ 10% ที่ติดเชื้อหนองในอาจไม่มีอาการเหล่านี้แสดงออกมาให้เห็นได้ชัด แต่ก็ยังสามารถแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นได้
ผู้หญิง : ในะระยะแรกที่มีการติดเชื้อหนองในมักจะยังไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็น แต่ในระยะต่อมาก็จะมีอาการตกขาวผิดปกติ เช่น มีปริมาณที่มากขึ้น , เป็นหนองสีเหลือง หรือสีเขียว , มีกลิ่นเหม็น , ไม่คัน , มีอาการขัดเบาและแสบร้อนทุกครั้งเมื่อปัสสาวะ , ปัสสาวะขุ่น , ปวดท้องน้อย , เลือดออกกะปริดกะปรอยในระหว่างที่มีรอบเดือนซึ่งพบได้น้อย
แต่หากมีอาการอักเสบของปีกมดลูก จะทำให้มีไข้สูง , หนาวสั่น , ปวด และกดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อยคล้ายปีกมดลูกอักเสบ เพศหญิงประมาณ 50% ที่ติดเชื้อหนองในอาจไม่มีอาการเหล่านี้แสดงออกมาให้เห็นได้ชัด แต่ก็ยังสามารถแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นได้

ทั้งสองเพศ : หากเกิดการติดเชื้อในลำคอก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ เป็นไข้ หรือหากติดเชื้อที่บริเวณทวารหนัก ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหน่วง คัน หรืออาจมีคล้ายน้ำหนองไหลออกมา โดยเฉพาะในเวลาที่ขับถ่าย
แต่หากติดเชื้อที่เยื่อบุตาก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ระคายเคือง และมีหนองไหล อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในตำแหน่งต่างๆ อาจจะไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดเลยก็เป็นได้ ซึ่งนอกจากอาการที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังอาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ (ไข่ดัน) บวมและมีอาการเจ็บได้อีกด้วย
โรคหนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อันตรายมากๆ ดังนั้นเราควรดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคดังกล่าว ควรมีคู่นอนเพียงคนเดียว งดการส่ำส่อนทางเทศ หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับคนอื่น และดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้ดีอยู่เสมอด้วย
พากับมาเรื่องเครียดเยอะเกินไปแล้ว เราก็มาพักไปท่องเที่ยวด้วยกันดีกว่ากับ เที่ยวลำปาง อยากเที่ยวแบบสโลไลฟ์ วิถีชีวิตที่ง่ายๆ แต่ได้ความสุขแบบเต็มอิ่ม มาทันความสมัยและก้าวไกลของเทคโนโลยีกับ AIS eSports STUDIO คอมมูนิตี้ฮับอีสปอร์ต แห่งแรกในประเทศไทย